โรคพิษตะกั่ว
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2561
โรคพิษตะกั่ว

ตะกั่ว  เป็นโลหะหนัก มีสีน้ำเงินปนเทาหลอมเหลวได้ทำให้อ่อนและดัดแปลงให้มีรูปร่างต่างๆ ได้ตามต้องการและสามารถเป็นไอได้ในที่อุณหภูมิสูงๆ ตะกั่วที่ใช้ในวงการอุตสาหกรรมแบ่งเป็น  2  พวก คือ
1.สารประกอบอนินทรีย์ของตะกั่ว เช่น โลหะตะกั่ว ตะกั่วอาซีเตด   ตะกั่วซัลเฟต  ตะกั่วซัลไฟด์และออกไซด์ของตะกั่ว  เป็นต้น
2.สารประกอบอินทรีย์ของตะกั่ว เช่น ตะกั่วเตตระเอธิล

อาการแสดงโรคพิษตะกั่ว
  1. อาการทางระบบทางเดินอาหาร เริ่มจากมีอาการเบื่ออาหารคลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก บางรายมีอาการท้องเสียอาการที่สำคัญคือ ปวดท้องอย่างรุนแรงมาก นอกจากนี้อาจตรวจพบแนวเส้นตะกั่วบริเวณเหงือกมีลักษณะเป็นเส้นสีน้ำเงิน – ดำ จับอยู่ที่ขอบเหงือกต่อกับฟัน พบบ่อยบริเวณฟันหน้ากราม และฟันกราม
  2. อาการทางระบบประสาทส่วนปลาย จะมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อแขนและขาบางครั้งมีอาการปวดตามกล้ามเนื้อ และข้อต่อต่างๆถ้าร่างกายได้รับปริมาณมากๆเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอัมพาตของกล้ามเนื้อได้ ซึ่งมักจะเกิดกับกล้ามเนื้อทีทำหน้าที่เหยียด
  3. อาการทางสมอง เป็นอาการแสดงที่พบว่ารุนแรงที่สุด มีอาการตื่นเต้น นอนไม่หลับ ฝันร้าย
  4. อาการทางโลหิต จะมีอาการซีดเลือดจาง
ทางเข้าสู่ร่างกาย
กลุ่มคนงานที่ทำงานที่เกี่ยวข้องกับสารตะกั่วโดยตรงมีโอกาสที่จะเกิดโรคแพ้พิษสารตะกั่วได้ โดย
  1. ทางการหายใจ โดยการสูดเอาฝุ่น ควัน ไอระเหยของตะกั่วที่นำมาใช้ด้านอุตสาหกรรม ที่ขาดการควบคุมอย่างถูกต้องและเหมาะสม ทำให้ควันเหล่านี้แพร่กระจายไปในสิ่งแวดล้อมของการทำงาน ทำให้คนงานต้องหายใจเอาอากาศ ซึ่งมีตะกั่วปะปนเข้าไปตลอดระยะเวลาทำงาน
  2. ทางปาก เป็นทางเข้าสู่ร่างกายเนื่องจากคนงานเอง เช่น สูบบุหรี่หรือรับประทานอาหารขณะทำงาน  รับประทานอาหารโดยมิได้ชำระร่างกายก่อน หรือรับประทานอาหารในโรงงานซึ่งมีตะกั่วอยู่ในบรรยากาศ
  3. ทางผิวหนัง มักจะเกิดขึ้นกับผู้ทำงานกับน้ำมันเบนซิน เช่น เด็กเติมน้ำมัน ช่างฟิต  เป็นต้น  เนื่องจากตะกั่วในน้ำมันเบนซินเป็นตะกั่วอินทรีย์ สามารถดูดซึมผ่านผิวหนังได้ดี
อาชีพที่เกี่ยวข้องกับสารตะกั่ว
โรคพิษตะกั่วอาจพบได้ในคนงาน โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้ตะกั่วเป็นวัตถุดิบ เช่น โรงหล่อพิมพ์  โรงหล่อภาชนะบรรจุ โรงผลิตเครื่องประดับ โรงงานแบตเตอรี่ โรงงานผลิตสี  โรงงานเครื่องเคลือบดินเผา  โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์  โรงงานที่ผลิตตะกั่วเป็นของใช้  โรงกลั่นน้ำมัน  เหมืองแร่  เป็นต้น
ดังนั้นบุคคลที่มีอาชีพทำงานโดยใช้สารตะกั่ว อาจจะเกิดอาการเป็นพิษเนื่องจากสารตะกั่วได้ง่าย 

การควบคุมและป้องกัน
เนื่องจากการเกิดโรคพิษตะกั่วเป็นโรคที่เกิดขึ้นแล้วรุนแรงมาก อาจทำให้พิการหรือถึงตายได้ ทำให้ชาติต้องสูญเสียกำลังแรงงานและเศรษฐกิจไป ทั้งๆที่เราสามารถจะป้องกันไม่ให้เกิดการแพ้พิษขึ้นได้ ถ้าหากเจ้าของโรงงานและตัวคนงานพยายามร่วมมือกันหาทางควบคุมป้องกันให้ได้ผลดังต่อไปนี้
  1. จัดให้มีการระบาย หรือถ่ายเทอากาศโดยติดตั้งเครื่องดูดอากาศเฉพาะที่  เพื่อดูดควันไอระเหย หรือฝุ่นละอองออกไปจากจุดที่เกิดขึ้นควบคุมอากาศในบริเวณที่ปฏิบัติงานให้เป็นไปตามค่ามาตรฐานความปลอดภัยต่อสุขภาพ
  2. แยกขบวนการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับตะกั่วให้ออกไปต่างหาก เพื่อให้มีการสัมผัสโดยตรงน้อยที่สุด
  3. ต้องหมั่นทำความสะอาดพื้นโรงงาน ตัวอาคารให้ปราศจากฝุ่นละอองของตะกั่ว
  4. การควบคุมสภาวะการทำงาน ลดเวลาการสัมผัสสารตะกั่ว โดยสัมผัสเฉพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น สับเปลี่ยนหน้าที่ของผู้ปฏิบัติงานเป็นระยะๆ
  5. ใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลในขณะปฏิบัติงานให้เหมาะสมในกรณีที่ทำการควบคุมฝุ่น ควันและไอระเหยตะกั่ว ยังได้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจ อุปกรณ์ควรประกอบด้วยอุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจ เสื้อผ้าชุดป้องกันอันตรายและมีการทำความสะอาด บำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างถูกต้องสม่ำเสมอ
  6. ห้ามรับประทานอาหาร  ดื่มน้ำ หรือสูบบุหรี่ในขณะทำงาน หรือขณะที่ร่างกายมีสารตะกั่วปนเปื้อนต้องทำความสะอาดก่อนรับประทานอาหาร ดื่มน้ำ สูบบุหรี่ ทั้งนี้เพื่อลดอัตราเสี่ยงของสารตะกั่วที่อาจปนเปื้อนมาในอาหาร เครื่องดื่ม หรือบุหรี่
  7. ตรวจสุขภาพก่อนทำงาน และขณะปฏิบัติงาน
จัดทำโดย
แผนกความปลอดภัย
อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน

ย้อนกลับ
แผนผัง